“CPR” การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้

ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน การช่วยเหลือที่รวดเร็วและถูกต้องสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างชีวิตและความตายได้ การทำ CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) หรือ การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน จึงเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรรู้ วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับการทำ CPR อย่างละเอียด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

CPR คืออะไร?

CPR คือกระบวนการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานที่ใช้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน หรือหยุดหายใจ โดยมีเป้าหมายหลักคือการรักษาการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและอวัยวะสำคัญต่างๆ เพื่อป้องกันความเสียหายของเซลล์สมองที่ไม่สามารถกู้คืนได้ การทำ CPR ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ:

  1. การกดหน้าอก (Chest Compressions): เพื่อสร้างแรงดันให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย
  2. การช่วยหายใจ (Rescue Breaths): เพื่อส่งออกซิเจนเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดของผู้ป่วย (เนื่องจากปัจจุบันมีภาวะความเสี่ยงจากโรคติดต่อต่างๆ การช่วยหายใจหรือการผายปอดให้ผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน จึงไม่นิยมทำ)

เมื่อใดถึงควรทำ CPR?

  • หากผู้ป่วยหมดสติ ลองเรียกชื่อหรือใช้มือตบที่บ่าทั้งสองข้างเบาๆ หากไม่มีการตอบสนอง ให้สันนิษฐานว่าหมดสติ ยังไม่ต้องทำ CPR
  • สังเกต 4 สัญญาณของการฟื้นคืนชีพ ได้แก่ ตากระพริบ ปากไอ หน้าอกกระเพื่อม แขนขาขยับ หากผู้ป่วยไม่มีสัญญาณดังต่อไปนี้ ให้เริ่มทำ CPR

วิธีการทำ CPR ที่ถูกต้อง

การทำ CPR ที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยเทคนิคที่ถูกต้องและรวดเร็ว โดยมีขั้นตอนดังนี้:

1. ประเมินความปลอดภัย: ก่อนเข้าช่วยเหลือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสถานที่นั้นปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ป่วยและตัวคุณเอง 5 สถานการณ์ที่ควรประเมินก่อนเข้าช่วยเหลือผู้อื่น ได้แก่ ไฟ ควัน น้ำมัน แก๊ส และพื้นเปียกน้ำ หากไม่มีให้ถือว่า สถานการณ์ปลอดภัย

2. ตรวจสอบการตอบสนองของผู้ป่วย: ปลุกเรียกผู้หมดสติ ด้วยการเรียกชื่อและตบบ่าทั้ง 2 ข้าง จำนวน 2 รอบ กรณีไม่รู้จักชื่อให้เรียก “คุณ คุณ คุณ”/ “คุณ คุณ คุณ”

3. ร้องขอความช่วยเหลือ: หากไม่มีสัญญาณของการฟื้นคืนชีพ กรณีอยู่หลายคน ให้ตะโกนขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วย ช่วยด้วย มีคนหมดสติไม่หายใจ ช่วยโทร 1669 นำเครื่อง AED มาด้วย” กรณีอยู่คนเดียว ให้โทร 1669 ทันที โดยแจ้งข้อมูลสำคัญของสถานการณ์ เช่น เกิดเหตุอะไร? ที่ไหน? มีผู้ป่วยกี่คน? อาการหรือสภาพผู้ป่วย ณ ขณะนั้นเป็นอย่างไร? และผู้แจ้งกำลังให้การช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยวิธีการใด? จากนั้นให้เปิดลำโพงเพื่อรับคำแนะนำจากทีมแพทย์ฉุกเฉิน

4. ตรวจดูการหายใจของผู้ป่วย: จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหงาย เปิดทางเดินหายใจโดยใช้มือข้างหนึ่งกดหน้าผากและมืออีกข้างหนึ่งเชยคางให้ยกขึ้น ตรวจการหายใจประมาณ 8 วินาทีโดยฟังเสียงลมหายใจ สายตามองที่หน้าอกว่ามีการกระเพื่อมขึ้นลงหรือไม่ สังเกต 4 สัญญาณของการฟื้นคืนชีพ ได้แก่ ตากระพริบ ปากไอ หน้าอกกระเพื่อม แขนขาขยับ หากผู้ป่วยไม่มีสัญญาณดังต่อไปนี้ ให้เริ่มทำ CPR

5. เริ่มการกดหน้าอก (Chest Compressions):

  • จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนราบกับพื้นแข็งๆ
  • วางส้นมือข้างหนึ่งบริเวณกึ่งกลางหน้าอก (ครึ่งล่างของกระดูกหน้าอก) และวางส้นมืออีกข้างทับลงไป
  • เหยียดแขนให้ตรงและตั้งฉากกับลำตัวของผู้ป่วย
  • ใช้แรงจากลำตัวกดลงไปให้หน้าอกยุบประมาณ 5-6 เซนติเมตร
  • กดด้วยความเร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที

6. การช่วยหายใจ* (Rescue Breaths):

  • หลังจากการกดหน้าอกครบ 30 ครั้ง ให้ทำการช่วยหายใจ 2 ครั้ง
  • ใช้มือข้างหนึ่งกดหน้าผากและอีกข้างเชยคางขึ้นเพื่อเปิดทางเดินหายใจ
  • บีบจมูกผู้ป่วยและครอบปากของคุณกับปากของผู้ป่วยให้สนิท
  • เป่าลมเข้าไปช้าๆ เป็นเวลา 1 วินาที สังเกตการขยับของหน้าอก
  • ทำซ้ำเป็นชุด: กดหน้าอก 30 ครั้ง สลับกับการช่วยหายใจ 2 ครั้ง

*หมายเหตุ: หากคุณไม่ได้รับการฝึกอบรมการช่วยหายใจ ไม่มั่นใจในวิธีการทำ หรือไม่มั่นใจในโรคติดต่อจากผู้ป่วย ให้กดหน้าอกอย่างต่อเนื่องเพียงอย่างเดียวจนกว่าทีมแพทย์จะมาถึง (Hands-Only CPR)

เมื่อใดควรหยุดทำ CPR?

  • มองเห็นสัญญาณของการมีชีวิต: ผู้ป่วยเริ่มหายใจเองได้ หรือเริ่มขยับตัว
  • ทีมแพทย์มาถึง: เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ฉุกเฉินเข้ามาทำหน้าที่แทน
  • หมดแรง: เหนื่อยมากจนคุณไม่สามารถทำ CPR ต่อไปได้แล้ว
  • มีภาวะหัวใจหยุดเต้นนานเกินไป: หากทำ CPR เป็นเวลานานและไม่มีการตอบสนองใดๆ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าไม่สามารถช่วยได้แล้ว หรือแพทย์สั่งยุติการช่วยชีวิต

การทำ CPR เป็นทักษะที่สามารถช่วยชีวิตคนได้จริงๆ การเรียนรู้และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณสนใจ ควรเข้ารับการอบรมจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิผลสูงสุด

ดาวน์โหลดคู่มือฝึกอบรมการทำ CPR ในรูปแบบ PDF

มูลนิธิชัยอนันต์: สนับสนุนผู้ให้เพื่อสังคมที่ยั่งยืน

www.chaianan.or.th

ติดต่อสอบถามโทร. 09-3000-3333

LINE : @Chaianan หรือคลิก : https://lin.ee/MsXI91u

แชร์บทความนี้